 |
| ห้องพักก็โออยู่นะคะ มีแบ่งเป็น รับแขก ทำงาน ห้องน้ำ ห้องนอน |
เที่ยวเม็กซิโกซิตี้ทุกครั้ง พักที่นี่ทุกครั้ง InterContinental Presidente Mexico City (ไม่ได้ค่าโฆษณา) แค่อยากจะบอกว่า โรงแรมตั้งอยู่ใน location ที่ดี area ที่ค่อนข้างจะปลอดภัย ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน ใกล้คิวรถบัส รถtaxi มีร้านอาหารทั้งในโรงแรม และ รอบโรงแรมเต็มไปหมด wifi ดี ไม่อืดให้รำคาญ หน้าโรงแรมมีสตาร์บัค ข้างโรงแรมประมาณ 2 บล็อคมี 7-11 (สภาพห้องก็ไม่ขี้เหร่นะ) จบ
แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือใกล้พิพิธภัณฑ์, Hall จัดกิจกรรมระดับชาติ, สวนสาธารณะ ฯลฯ ใกล้ชนิดที่ว่านักเดินทนอย่างเรา ๆ สามารถเดินไปเที่ยวได้สบาย ๆ เดินกลับไม่ไหวก็ยังนั่งรถบัสมั่วกลับได้เองอีก เพราะถนนเส้นหลักตัดตรง รถไม่เลี้ยวหนีไปไหนเลย ha~ha
วันนี้อารมณ์ดี อากาศดีอีกเช่นเคย เลยจะถือโอกาสออกไปเดินเที่ยว ออกทางด้านหลังโรงแรม(จะมีทางเล็ก ๆ ให้เดินลัดไปยังถนนใหญ่) ถึงถนนใหญ่(โรงแรมอยู่ข้างหลังเรา) เลี้ยวซ้ายแล้วเดินแนวตรงไปตามกำแพงจนเจอประตูทางเข้าแล้วเดินเลาะเข้าไปข้างในเป็นสวนสาธารณะ Chapultepec
ในสวนนี้ก็จะมีสระน้ำใหญ่ พร้อมเกาะเล็ก ๆ ตรงกลาง ให้คนเช่าเรือ+เช่าเสื้อชูชีพ ปั่นเรือเล่นเป็นกิจกรรมยามว่างสนุก ๆ(ช่วงที่ไปน้ำเขียวน่ากลัวมาก) ถ้าไม่ชอบลงเรือ เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ในนี้จะมีสวนสัตว์(แต่เราไม่เข้าไปนะ กลิ่นแรงมาก ไม่รู้มีสัตว์ไรบ้างแถมคิวยังยาวอีก) เดินเลยไปต่อ
ถัดมาก็จะเป็นถนน เป็นลานภายในสวนมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งของขายกันเต็ม 2 ข้างทาง อารมณ์ และ บรรยากาศ แลดูคล้ายงานวัดบ้านเรา(แต่ไม่มีชิงช้าสวรรค์,รถไต่ถัง,สาวน้อยตกน้ำ) ส่วนมากขายของที่ระลึก หมวก, กระเป๋า, เสื้อผ้า, ตุ๊กตา และ ของกิน
แต่เราก็ไม่สนใจ เพราะเป้าหมายของเราวันนี้คือเที่ยวชม ปราสาท เดินไปไม่ต้องกลัวหลง เพราะ ตัวปราสาทสร้างขึ้นบนยอดเขา สามารถมองเห็นจากระยะไกล ๆ ได้
ถึงแล้วค่ะ มองเห็นไม๊คะ ปราสาทอยู่ด้านบน
จากมุมนี้เราเดินขึ้นเนินกันมาพอสมควรแล้วนะคะ ทางลงเนินซ้ายมือ
จะเป็นจุดรอรับนักท่องเที่ยวขึ้นรถต่อเป็นขบวนยาว ๆ ขึ้นเขาไปยังตัวปราสาทค่ะ
ส่วนเราคนแข็งแรง เดินเลยขึ้นมาค่ะ จะมี จนท.ยืนรอตรวจกระเป๋า ข้าง ๆ จะมีล็อกเกอร์ให้เราเอาของไปฝากไว้ และ ห้องน้ำ อ่อ...ห้ามเอาน้ำดื่มขึ้นไปค่ะ และถ้ากระเป๋าใหญ่มากเขาก็ไม่ให้ถือขึ้นไป ส่วนเรา จนท.ไม่ค่อยเข้มงวดมาก เดินตีมึนเข้าไปพูดภาษาอังกฤษสำเนียงไทยค่ะ ผ่านฉลุย
ทางเดินขึ้นค่ะ อากาศเย็นสบาย ต้นไม้เยอะ เดินวนขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ
 |
| Zone แรกที่เดินเข้ามา จะอยู่ในส่วนของสถาบันการศึกษาทหาร |
ในที่สุดก็เดินมาถึงซะที ต้องซื้อบัตรเข้าด้วยนะคะ แถวยาวมากจ่ายเป็นเงินเปโซค่ะ (จำไม่ได้ว่าราคาเท่าไหร่)
และนี่ก็คือ ปราสาท Chapultepec ที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างเพราะ ปราสาทแห่งนี้ใช้เป็นฉากในการถ่ายทำหนังเรื่อง โรมิโอ&จูเลียต version พ่อหนุ่ม ลีโอนาโด ดีคาปริโอ และ สาว แคลร์ เดนส์ นั่นแหละค่ะ
Chapultepec Castle หรือ ปราสาท ชาปูลเตเปค (สะกดเอาเองตามที่หูได้ยินอีกแล้ว) ตั้งอยู่บนยอดเขา Chapultepec Hill ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,325 เมตร (มิน่าหล่ะ...เดินเที่ยวไปหอบไป)
โดยตามประวัติศาสตร์ ปราสาทแห่งนี้เคยใช้เป็น สถาบันการศึกษาทางด้านทหาร, ที่ประทับของจักรพรรดิ, บ้านพักประธานาธิบดี, หอสังเกตการณ์ และ พิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกเป็นโซน สถาบันการศึกษาทหาร ส่วนโซนที่ 2 อยู่ถัดเข้าไปข้างในจะเป็นในส่วนที่ประทับของจักรพรรดิ Maximilian I
เดินเข้ามาข้างในก็จะมีรถม้าที่ใช้กันในสมัยก่อนจัดแสดงโชว์ไว้
ป้ายก็มีบอกนะคะว่ารถของใคร ใช้ในโอกาสไหน แต่ไม่ได้อ่าน (ไม่อยากเบียดคนเข้าไป)
คันนี้หรูสุดในบรรดารถม้าที่จัดแสดงโชว์เอาไว้ เสียดาย 2 สาวข้างหน้ายืนบัง
<<---- เดินผ่านห้องนี้แต่ไม่รู้ว่าคือห้องอะไร?? มีโต๊ะตั้งหันหน้าออกด้านนอก คล้ายพวกห้องรับหนังสือ เอกสารเลย
ออกมาเดินสูดอากาศข้างนอกก่อน จะมองเห็นวิวเมือง ตึกสูง ๆ ทางด้านหลังด้วย
<<----ห้องกินข้าวค่ะ หรูหราอลังการ ตั้งแต่เพดานยันพรมปูพื้นกันเลยทีเดียว
ห้องต่าง ๆ ในปราสาทยังคงมีข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เหมือนเมื่อครั้งที่ถูกใช้เป็น สถาบันการศึกษาทหาร และ วังที่ประทับของจักรพรรดิ ------ >> ----- >> ----->> ----->>
<<------ มีลิฟท์โบราณได้อีก มันล้ำมาก แต่เปิดโชว์ไว้เฉย ๆ นะคะ ไม่อนุญาตให้ใช้งาน (ถึงอนุญาตก็ไม่กล้าใช้)
มีบันไดวนขึ้นชั้น 2 อีก แต่ไม่อนุญาตให้เดินขึ้นทางนี้
นี่คือห้องดนตรีค่ะ ยังมีเปียโนเก่า ๆ ตั้งอยู่กลางห้องเลย
ภาพนี้ห้องเดียวกันกับข้างบน แต่คนละมุม (ห้องกว้างมาก)
ก็ยังห้องเดิมนะคะ จะเห็นได้ว่ามีเปียโน 2 หลัง
แวะออกมาตรงลานน้ำพุมั่ง ตรงนี้จะเป็นลานตรงฝั่งที่ประทับ
เจอแล้ว ตรงนี้เป็นบันไดขึ้นไปชั้นบน
<<----- ห้องบรรทมของจักรพรรดิ Maximilian of Mexico เห็นแล้วก็ WoW!! ความเป็นอยู่ของคนยุคสมัยนั้นช่างหรูหราซะจริง ๆ
ห้องนอนอีกห้อง แต่ไม่รู้ว่าเป็นห้องของใคร
ห้องนอนอีกห้อง คราวนี้มีโต๊ะเครื่องแป้งด้วย
ก่อนข้ามไปห้องอื่น ขอโชว์ห้องนี้ก่อน นี่คือห้องอาบน้ำ สังเกตอ่างอาบน้ำหินอ่อน!!!
อันนี้ก็ไม่รู้ว่าห้องอะไร เห็นเก่าดีเลยถ่ายรูปติดมาด้วย
<<----- ลืมบอกไปว่าห้องแต่ละห้อง จะมีประตูเปิดเชื่อมถึงกันได้ บางห้องก็มีซอกเล็ก ๆ ช่องลับ ๆ
<<----- จากภาพด้านบน ห้องที่เรามองเห็นคือห้องนี้ค่ะ มันมีประตูเชื่อมถึงกัน (แต่ไม่อนุญาตให้เราเดินผ่านห้องนะ ต้องเดินอ้อมไปตามทางเดินที่กำหนดไว้)
เอาแค่โคมไฟ กับ เพดานห้องก็สวยงามมาก ๆ ค่ะ (อารมณ์อยากเป็นเจ้าหญิงในเทพนิยายมาเต็ม)
ทางเดินตรงนี้ ฝาด้านนึงจะเป็นผนังที่ประดับด้วยกระจกสี stained glass ทั้งหมด สวย งดงามมาก ตะลึงไปเลย (ถ่ายมาช่องเดียว เพราะ ช่องอื่นมืดมาก กล้องมือถือกาก ๆ เก็บภาพได้ไม่ดี)
ปราสาทแห่งนี้เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1785 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1863 โดยสถาปัตยกรรมภายในปราสาทเป็นแบบผสมผสาน Neo - romanticism, Neoclassical และ Neo - Gothic เนื่องจากใช้เวลาก่อสร้างอย่างยาวนาน และ ใช้สถาปนิกทั้งชาวยุโรป และ เม็กซิกัน ในการออกแบบ
เดินออกมาข้างนอกบ้างดีกว่า ตามฝาผนังก็จะมีภาพประดับตกแต่ง
ด้านบนจะมีสวนให้เดินเล่นด้วยหล่ะ
ส่วนป้อมตรงกลางนี้เป็นหอสังเกตการณ์ และ บนสวนนี้ก็เดินได้รอบเลยค่ะ
<<---- ขาเดินกลับออกมา ก็จะผ่านห้องจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ
<<----- เหรียญ ตรา ต่าง ๆ
จักรพรรดินี Charlotte (ชีวิตรักน่าสงสารมากค่ะ ถ้าว่าง ๆ จะเขียนเล่าให้ฟัง)
อ่อ ลืมบอกว่าจักรพรรดิ Maximilian I และ จักรพรรดินี Charlotte เป็นเชื้อพระวงศ์ชาวยุโรป ซึ่งถูกส่งมาสถาปนาตนเป็นจักรพรรดิ ควบคุมอาณาจักรทางทวีปอเมริกา ซึ่งในขณะนั้นตกเป็นเมืองขึ้น
ตรงนี้จะเป็นประตูทางออกสู่สวนลอยฟ้าอีกด้านนึงค่ะ เวลาแสงสาดผ่านช่องลูกกรงเข้ามาแล้วเป็นภาพที่สวยมาก ๆ
สวนลอยฟ้าด้านนอกค่ะ สวยงามมาก
