Friday, June 12, 2015

เที่ยว Universal Studios Hollywood@2014

ขับรถจาก Las Vegas มุ่งหน้าไป Los Angeles ตามแพลน 3 วัน 2 คืน ไปตั้งแต่ปี 2014 นู่น แต่เพิ่งจะค้นเจอรูป  ทริปนี้มีเวลาว่าง 1 วัน จำเป็นต้องหาอะไรทำ หลังจากตระเวนไปทั่ว LA แล้ว เลยตัดสินใจจะไปเที่ยว Universal Studios (อันที่จริงใฝ่ฝันมานานแล้วha~ha) 



รูปแรกเห็นตัว Hollywood เล็กกระจึ๋งเดียว (กล้องซูมไม่ได้)



พอตัดสินใจได้ปุ๊บ ก็เปิดเว็บไซด์เข้าไปจองตั๋วเลยค่ะ www.universalstudioshollywood.com แต่เพื่อความชัวร์โทรไปจองดีกว่า จองปั๊บจะได้ confirmation ส่งมาให้ทาง e-mail นะคะ print ออกมาค่ะ


ของเราจองตั๋วแบบ VIP ซึ่งมีข้อดีหลายอย่าง คือ รวมค่าอาหารกลางวัน (Buffet), ค่าจอดรถ (Valet), ทัวร์โรงถ่ายเฉพาะ VIP + ไกด์ตลอดรายการ และ ที่สำคัญที่สุดคือ เล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ ไม่ต้องต่อคิวยาวค่ะ เดินเข้าช่อง VIP ไปได้เลย (เซฟเวลาเป็นอย่างมาก) อ่อ...ใครมีบัตร AMEX พกไปด้วยนะคะ สามารถเข้าไปใช้ AMEX LOUNGE ได้ (ไม่ต้องเสียเงินซื้อน้ำ ซื้อขนมเพิ่ม)

ตอนโทรจองเจ้าหน้าที่แจ้งนะคะว่าตั๋ว no refunds พร้อมถามจุดที่เราจะออกเดินทาง แถมบอกเวลาที่ควรออกเดินทางให้เรียบร้อยและกำชับว่าห้ามสาย

จอดรถเสร็จแล้วให้ลืมลูกโลก และ พรมแดงตรงทางเข้าไปได้เลย 10 โมง ร้อนแดดเปรี้ยงจนไม่กล้าหยุดถ่ายรูป ตั๋ว VIP จะมีทางเข้าแยกต่างหากเพื่อให้เราได้ไปลงทะเบียน และ จัดกรุ๊ป เสร็จแล้วเราก็ถูกพาเข้าไปนั่งรอไกด์ ในห้องนั่งรอจะคล้าย ๆ ห้องอาหาร มีโต๊ะอาหาร ทีวี เครื่องดื่ม และ ของว่าง ๆ ต่าง ๆ ให้เราเดินไปหยิบมากินได้ในระหว่างรอ





ลงทะเบียนเสร็จเค้าจะให้ป้ายนี้มาคล้องคอ





<<ไกด์มารายงานตัวและแจกของที่ระลึก ในซองพลาสติกจะมี พวงกุญแจ, ทิชชู่เปียก, ลูกอม และ ครีมกันแดด (อันนี้จำเป็นมาก เพราะแดดเปรี้ยงสุด ๆ)






ไกด์มาแล้วก็จะเรียกลูกทีมมารวมกัน และ  แนะนำตัว (กว่าจะได้เขียนเรื่องนี้ลืมชื่อไกด์ไปแล้วเรียบร้อย แต่จำได้ว่าไกด์ทำงานที่นี่มาหลายสิบปีแล้ว)  เราก็จำ ๆ หน้าเพื่อนในกรุ๊ปไว้ค่ะ จะได้ไม่หลง ซึ่งทัวร์ VIP จะจัดกรุ๊ปละไม่เกิน 10 คน พร้อมแล้วออกทัวร์กันเลยค่ะ






จุดแรก Water World ไม่ต้องต่อแถว และ ที่นั่งวิวดี ๆ จะถูกกั้นเอาไว้ให้แล้ว (ไม่เสียแรงลงทุนซื้อตั๋ว VIP)





นั่งดู Special effects (ถ้านั่งแถวล่างเปียกแน่นอนรับประกัน) สุดอลังการ ระเบิดจริง อะไรจริงไฟแถบจะลุกลวกขนตา










<<จุดถัดมาที่แวะ คือ Despicable Me Minion Mayhem เจ้าตัวมินเนียน ด้านในจะถูกจำลองให้เป็นห้องทดลอง ย่อตัวเราให้เล็กลง แล้วพาเข้าไปข้างในจะเป็น 3-D Ride ออกมาแล้วเวียนหัวเลย
















>>จุดต่อมาคือบ้านผีสิง HOUSE OF HORRORS ใครไปช่วงนี้ ไม่ต้องถามหาแล้วนะ เพราะไกด์บอกว่าเค้าจะทุบทิ้งสร้างอย่างอื่นแทนแล้ว (เดือนที่เราไปเป็นเดือนสุดท้ายที่บ้านผีสิงเปิดทำการพอดี) ที่อยากเข้าไปคือข้างในมันมืด ๆ เย็น ๆดี (เดินข้างนอกแดดร้อน)








เดินต่อไปขึ้น The Simpsons Ride อันนี้เป็นรถไฟเหาะ simulation สนุกที่สุดในบรรดาเครื่องเล่นต่าง ๆของที่นี่เลย **คำเตือน : ควรเล่นก่อนอาหาร (ไม่งั้นอาจมีอ้วกกระจาย)







<<เล่นเสร็จเดินมานั่งรอรับประทานอาหารเที่ยงค่ะ ต้องเข้าพร้อมกันทั้งกรุ๊ป เพราะเค้าจะจัดให้นั่งโต๊ะเดียวกันทั้งหมด บรรยากาศดี อาหารเป็นแบบ Buffet รวมทั้ง เครื่องดื่มต่าง ๆ จัดไว้ในตู้แช่ เดินตักเดินเติมตามสบายค่ะ กินเสร็จแล้วก็เดินออกไปนั่งรอไกด์ที่จุดนัดพบ



<<ระหว่างรอจะมีตัวการ์ตูนแบบนี้มาเดินให้เด็ก ๆ ถ่ายรูปด้วย
















รอไม่นานไกด์มา (ให้เวลาทานอาหาร 1 ชั่วโมง) แล้วพาเราเดินไปต่อ ถึงตอนนี้จะเป็น ช่วง Studios Tour กันแล้วค่ะ ซึ่งปกติถ้าเราซื้อตั๋วธรรมดาก็ต้องไปเข้าแถวรอขึ้นรถพ่วงยาว ๆ เข้าไป แต่ของกรุ๊ป VIP จะมีรถแยกต่างหาก




รถ VIP ทัวร์ จะเอากรุ๊ปมารวมกัน 2 กรุ๊ป ในการเข้าเยี่ยมชมสตูดิโอ




บนรถไกด์จะตามมาบรรยายต่อ สลับกับคนขับรถเป็นระยะ ๆ




มีน้ำดื่มแช่เย็นแจกค่ะ (ไม่ต้องเสียตังค์ซื้อและเปลืองแรงหิ้ว)





เข้ามาบริเวณด้านในแล้วฝั่งด้านซ้ายมือ จะจัดแสดงรถต่าง ๆ ที่ใช้ในการถ่ายทำหนังเรื่องจูราสสิคพาร์ค




 จุดแรกรถพามาจอดเป็นฉากจำลองหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเม็กซิโก



จอดนิ่งซักพักจะเริ่มมีฝนตก และน้ำไหลบ่าลงมาท่วมเมือง (ได้อารมณ์ฝนตกน้ำท่วมกันไป)




ขับรถผ่านฉากหนังเซตอัพเหมือนจริงกันเลยทีเดียว







<<ขับรถอ้อมดูบรรยากาศโดยรอบแล้ว มีรถอาหารเข้ามาส่งอาหารให้พนักงาน




ถึงตรงนี้ไกด์จะพาเข้าไปดูแผนกที่เก็บอุปกรณ์ประกอบฉากหนังเรื่องต่าง ๆ




















อุปกรณ์มีตั้งแต่ เฟอร์นิเจอร์ (ตู้, เตียง, โต๊ะ, โซฟา)




เฟอร์นิเจอร์ยุคเก่า vs ใหม่




เครื่องมือกระจุกกระจิก



แก้ว ถ้วย ชาม ราม ไห (มีครบทุกสิ่ง)





เวลาเบิกอุปกรณ์ฯก็จะต้องส่งรายการของที่ต้องการมาที่แผนกนี้ เจ้าหน้าที่จัดหาก็จะต้องเดินไปค้นของตามรายการที่ได้รับ




แล้วก็เอามารวมใส่รถเข็นแบบนี้ รอเวลาที่กองถ่ายจะมาเบิกออกไป




prop ประกอบหนัง หรือ ซีรีย์ดังต่าง ๆ ก็ถูกจัดรวมไว้ในนี้




มี The Mummy ด้วย










<<ชม prop ประมาณ 20 นาที ไกด์จะกวาดต้อนเราออกมาด้านนอกแล้ว ให้ดูฉากด้านนอกที่ถูกเซตไว้ในการถ่ายทำหนังต่าง ๆ กันบ้าง


ด้านนอกมีทั้งโซนที่เซตไว้เป็นเมือง ๆ หนึ่งในยุโรป และ โซนที่เซตไว้สำหรับถ่ายหนังย้อนยุค




















นี่ก็ฉากจำลอง ไกด์บอกว่าถ้าลองทุบกำแพงแรง ๆ มันจะทะลุเป็นรูได้เลย บางส่วนจะทำจากกระดาษ





สถานีรถไฟจำลอง



เดินผ่านจุดนี้เราจะเห็นข้างหลังฉากที่เซตไว้




แล้วมาดูด้านหน้าฉาก (สวยงามตามท้องเรื่อง ha~ha)










<<หลังจากเดินตากแดดกันจนหน้ามืดพอสมควรแล้ว ไกด์พานั่งรถต่อมาที่ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจำลอง ตามท้องเรื่องฉากนี้เป็น Metro แห่งหนึ่งใน ชิคาโก้





















>>ฉากนี้คือจะเกิดรถไฟชนกันในสถานี แล้วทำให้สถานีเกิดความเสียหาย และน้ำไหลเข้าท่วมสถานีใต้ดิน ว่าแล้วน้ำก็ไหลมาเทมา


>>ตอนที่ขบวนรถไฟชนจะเกิดขึ้นทางด้านซ้ายของตัวรถที่เรานั่ง รถไฟพุ่งออกมาจากอุโมงค์ชนจนพังยับทังคัน เหมือนจริงมากแต่เก็บภาพไม่ได้เพราะรถที่เรานั่งก็จะสั่นสะเทือนไปให้เหมือนกับเราถูกชนจริง ๆ

















<<น้ำไหลจริงจัง ตื่นเต้นอลังการมาก




















แล้วรถก็พาเราเคลื่อนออกจากสถานีเพื่อไปยังจุดต่อไป




@ก่อนจะออกเดินทางไปชมฉากแบบ outdoor เราก็ได้เข้าไปชมฉากในสตูดิโอกันก่อน@



ข้างในโรงถ่ายฯจะถูกเซตให้เป็นบ้านหลังนึง




มีฉากด้านนอกบ้าน ไกด์บอกว่าเวลามองออกนอกหน้าต่างต้องได้บรรยากาศนอกบ้านเสมือนจริงด้วย ถ้าเป็นฉากยืนนอกบ้านในฤดูหนาวก็ต้องปรับอุณภูมิให้หนาวเหมือนบรรยากาศจริง เพื่อความสมจริงด้วยค่ะ







คุณไกด์จากอีกกรุ๊ปเป็นผู้บรรยาย คำเตือน : ห้ามเคลื่อนย้ายหยิบจับข้าวของในบ้านเด็ดขาด 












<<ลักษณะจะเหมือนบ้านนินจาเลย สามารถเลื่อนปรับฉากเป็นห้องนั้นห้องนี้ได้ ถ้ามองขึ้นด้านบนจะเจออุปกรณ์แสงไฟ ไมค์ ฯลฯ ระโยงระยางไปหมด















<<ไกด์อธิบายต่อค่ะว่าแสงไฟต้องปรับให้ได้ตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเวลา เช้า สาย บ่าย เย็น แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาในบ้านก็ไม่เหมือนกัน ต้องปรับให้สมจริงที่สุด












ออกมาจากโรงถ่ายฯแล้ว เราก็นั่งรถต่อไปดูสถานที่แบบ outdoor กันบ้าง ณ จุดนี้จะผ่านโรงซ่อมและต่ออุปกรณ์ประกอบฉากบางรายการ












<<มาต่อกันที่นี่ ตรงจุดนี้เคยใช้ถ่ายทำหนังหลายเรื่อง ที่ดัง ๆ คือเรื่อง Jaws ที่มีฉลามคลั่งไล่งับคนนั่นแหละค่ะ









ตรงจุดนี้รถจะหยุดรอให้เราชม special effects นั่นไงเริ่มเห็นฉลามมาแล้ว




พอฉลามมาใกล้ ๆ ก็มีการระเบิดเกิดขึ้น




ไฟลุกท่วม ไอร้อนกระทบ ร้อนจนคิดว่าหนังหน้าไหม้ไปแล้ว




แล้วฉลามปลอมก็ลอยมาตายข้าง ๆ รถเรา



จะขอเล่าข้ามจุดที่ไม่ได้เก็บรูปมาฝาก คือ จะมีช่วงที่พาเข้าไปจอดอีกจุดในอุโมงค์ ที่จริงคือโรงหนัง 3-D แบบ 360 องศา เป็นคิงคองยักษ์ ต่อสู้กับไดโนเสาร์ กระโดดวิ่ง กระโดดข้ามรอบรถ เหมือนเราอยู่ในเหตุการจริง ๆ มาก แต่เนื่องจากถ่ายรูปไม่ได้ก็จะขอข้ามไป

















<<ตอนนี้รถไต่ขึ้นเนินเขา จะพาไปชมบ้านที่เป็นฉากในการถ่ายทำเรื่อง Desperate Housewives














บรรยากาศบ้านบนเนินเขา สวยงาม




มีปลูกต้นไม้จัดสวนดูร่มรื่นด้วย




แต่เอ๊ะ!!! พอรถเลี้ยวเห็นด้านข้าง บ้านมีครึ่งซีก มีแต่ฉากหน้า ฮ่วย!!ลวงตาข้าน้อยอีกแล้ว




ฉากต่อมาคือที่นี่ซึ่งจำไม่ได้ว่าอยู่ในหนังเรื่องอะไร




ตรงพื้นมีทำเป็นเกล็ดสีขาว ๆ โรยไว้ด้วย อารมณ์เหมือนหิมะตก แต่ของจริงแดดร้อนเว่อร์





ภาพยนต์ในดวงใจ^^










<<ถัดมาเป็น Bates Motel ฉากในการถ่ายทำหนังดังเรื่อง Phycho (1960) รถจะหยุดตรงนี้ซักพักนึง





















<<ในภาพจะเห็นบ้านของ Norman ที่อยู่ด้านหลัง Motel และ จะเห็น Norman อุ้มศพออกมาจากห้องเพื่อที่จะเอามาใส่ในท้ายรถ






พอเอาศพใส่รถ Norman ก็จะทำท่ามองเห็นเรา แล้วเริ่มถือมีดวิ่งไล่มา ในขณะที่รถเราก็จะค่อย ๆ ออกตัวช้า ๆ เพื่อไปชมจุดอื่น ๆ ต่อไป







ถัดมาคือฉากเครื่องบินตกในหนังเรื่อง War of the Worlds




ทุกอย่างถูกเซตไว้สมจริงมาก ตรงซากเครื่องบิน ก็จะมีควันลอยออกมาตลอด




ทั้งข้าวของเครื่องใช้ บ้านเรือนในสภาพที่เครื่องบินตกใส่




บรรยากาศสมจริงมาก ๆ ค่ะ แต่จะดีกว่านี้ถ้ามี Tom Cruise มายืนโบกมือให้




ตอนนี้รถก็จะเริ่มเคลื่อนออกจากบริเวณฉากนี้แล้ว ขอย้ำนะคะว่าสมจริงมาก ๆ




ก่อนรถจะพาขับกลับลงมา ก็ขอเก็บภาพโรงถ่ายด้านล่างไว้ซะหน่อย





สตูดิโอข้างล่างเวลาที่เราผ่าน เจ้าหน้าที่จะขอร้องให้อย่าส่งเสียงดังค่ะ เค้ากลัวเสียงเล็ดรอดเขาไปในขณะที่มีการถ่ายทำ เพราะฉะนั้นในบริเวณสตูดิโอในภาพนี้จะเงียบมาก ๆ






เสร็จจากเที่ยวชมสตูดิโอแล้ว ไกด์พาเราไปเล่นเครื่องเล่นที่เหลือต่อค่ะ ได้แก่ ล่องแก่ง จะเป็นการจำลองบรรยากาศหนังเรื่องจูราสสิคพาร์คตลอดทาง อันนี้สนุกมาก แต่เปียก ขนาดไกด์แจกเสื้อกันฝนแล้วนะแต่ก็ไม่วายเปียกจนได้


เครื่องเล่นถัดมา ก็จะเป็น Mummy Ride อันนี้ผิดหวังมาก มีลูกมีหลานบอกอย่าไปเล่นเลยเสียเวลา เสียความรู้สึก คือมันพาเรานั่งรถไฟไต่ขึ้นไปในถ้ำมัมมี่แล้วก็หยุด พักนึงมัมมี่โผล่มา เครื่องมันกระชากเราถอยหลังลงกลับไปที่เดิมแบบมึน ๆ มวน ๆ ท้อง จบแล้ว นี่คือ สนุกตรงไหน??


ส่วนอันสุดท้ายที่เล่นรู้สึกจะเป็น Transformers 3-D Ride อันนี้ก็สนุก แต่น้ำหมากแทบกระจาย เพราะเครื่องมันเหวี่ยง เป็นฉากที่ Bubble B ต่อสู้แล้วตัวเราอยู่กลางวงต่อสู้นั้นพอดี เครื่องจะพาคอยหลบหลีกเหวี่ยงไปมา สนุกมาก ๆ 


เล่นจบครบทุกสิ่ง ไกด์ก็จะขอลากลับ แต่เราสามารถเดินเล่นต่อเองได้ หรือจะกลับไปเล่นเครื่องเล่นที่ชอบอีกก็ได้ แล้วไกด์ก็บอกว่าตอนนี้เค้ากำลัง สร้าง The Wizarding World of Harry Potter โอ๊ย!!! กรี๊ด!!! ต้องเสียเงินเข้ามาเล่นใหม่อีกทีตอนสร้างเสร็จ ได้ข่าวว่าจะเปิดช่วง Spring 2016 นะคะ เก็บเงินไว้รอกันได้เลย ส่วนวันนี้ขอลาไปแพ็คกระเป๋าย้ายบ้านก่อน ถ้าค้นเจอรูปอะไรดี ๆ คร่าวหน้าจะมาเขียนเล่าเรื่องให้ฟังใหม่นะคะ สวัสดี