หายจากการอัพบล็อกไปนานถึง 1 ปีเต็ม ๆ กันเลยทีเดียว เริ่มจากโน๊ตบุ๊คที่อุตส่าห์หอบหิ้วมากจากเมืองไทย ได้ถึงกาลอวสาน จบชีวิตตัวเองลง ด้วยการทำหน้าจอดำไปเฉย ๆ ซะงั้น(ที่จริงอาการออกตั้งแต่เมืองไทยแล้ว หลังจากที่ร่วมทางกันมากว่า 5 ปี มันคงถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนแปลงแล้วหล่ะ) และ 1 ปีที่ผ่านไป ก็ทำได้แค่เพียง ถ่ายรูป และ จดจำ จนกระทั่งวันนี้อุปกรณ์กลับมาพร้อมอีกครั้ง เลยได้โอกาสกลับมาอัพบล็อกซะที
วันนี้ขอสวัสดีปีใหม่ 2013 (ช้าไปหลายวัน) ไปซะด้วยเลย ข้อความสวัสดีปีใหม่ จากพ่อ แม่ เพื่อน พี่ น้อง และ ญาติโก โหติกา เข้ามาหมดทั้งในเฟซบุ๊ค และ ในไลน์ รวมถึง แอปต่าง ๆ ทั้ง TEXT ทั้ง โทร และ ฯลฯ ในใจก็อยากจะตอบกลับให้หมดทุกคนเลย แต่เนื่องจากข้าพเจ้าเอาตัวเองเข้าไปสิงอยู่ที่ Times Square เนตกาก ๆ เลยทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แทบจะขาดการติดต่อกะเพื่อนฝูงไปหลายวัน
อันว่า The Times Square New Year's Eve celebration เป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตที่มาถึง NYC แล้วจะต้องไปร่วม Countdown ให้จงได้ (เขาว่ากันหน่ะนะ แต่ ไม่รู้ว่าใครว่า...???) และเราก็บ้าจี้ พยายามบุกไปถึง 2 ปีซ้อน
· 2012 ด้วยความเสร่อของข้าพเจ้าเอง ทำให้พลาดอย่างแรง ซาโอริเพื่อนร่วมชั้นชาวญี่ปุ่น อุตส่าห์บอกให้เตรียมน้ำดื่ม อาหาร เสื้อกันหนาวหนา ๆ และ ใส่แพมเพิร์ส ไปด้วย ที่สำคัญกรุณาไปให้ถึงก่อนเที่ยงนะคะ ไม่งั้นจะเข้าไม่ได้เลยเชียว ในใจนั่งคิดว่าบ้าป่าวซาโอริ เค้าเคาท์ดาวน์นู่นห้าทุ่ม – เที่ยงคืนนู่น จะเห่อไรกันนักหนา กะอีแค่มีฟรีคอนเสิร์ต เลดี้ กาก้า เท่านั้นเอง แต่ยังไงเราก็ไป แค่เสื้อหนา ๆ กันหนาวพอ น้ำ+อาหาร หาซื้อกินเอาข้างหน้า ว่าแล้วก็นั่งซับเวย์แบบเย็นใจสบายอารมณ์ไปถึงที่หมายตอนบ่าย 3 โมงจ้า ออกมาปุ๊บ ตำรวจกั้น!!! ไปโน่นเลย งง!!! จะให้ไปไหนวะ??? สรุปตำรวจบอกให้ไปไกล ๆ เดินไปเถอะจนกว่าเค้าจะเปิดช่องให้เข้า เพราะพอคนเต็ม 1 บล็อคถนน เค้าก็จะปิด และ กั้นไปเรื่อย ๆ และเราก็เดินห่างจากไทม์สแควร์มาเรื่อย ๆ ๆ ๆ เดินจนสบโอกาส แฝงตัวเข้าไปแออัดอยู่ในบล็อค ๆ นึงได้ มองเห็นคริสตัลบอลอยู่ริบหรี่ ๆ แต่ทนได้แค่ประมาณ 45 นาที ดันปวดฉี่ ซะงั้น!!! ก่อนจะฉี่ราดให้อับอายเลยตัดสินใจเบียดคนแล้วกระโดดรั้วออกไป (โชคดีที่ขายาว) จุดมุ่งหมายคือ สตาร์บัค อยู่นิวยอร์ค เข้าสตาร์บัค บ่อย ๆ ไม่ใช่ชอบกินกาแฟ แต่มันมีห้องน้ำฟรีให้เข้าต่างหาก (แต่บางสาขาก็ไม่มีห้องน้ำนะ) ถึงคิวจะยาวแต่ก็พอทน อย่างน้อยก็ยังมีความหวัง (หวังว่าจะไม่ต้องไปฉี่อยู่ริมถนน) และแล้วคืนนั้นก็จบลงด้วยการนั่งปวดขา (เพราะเดินไกล) และ จิบกาแฟ ที่สตาร์บัค สาขา ตรงแถว Columbus Circle จากนั้นก็ไล่ถ่ายรูปกะตำรวจ และ ชาวบ้านชาวช่องไปเรื่อย
·
2013 มาปีนี้ ครั้งที่ 2 ไม่มีพลาด!!!
หลังจากไปเกริ่นให้ผู้มีอุปการะคุณได้ทราบว่า เราเสร่อแค่ไหนในปีที่แล้ว
ที่พยายามจะไปเคาท์ดาวน์ที่ไทม์สแควร์แล้วพลาด ปีนี้จึงมีผู้วางแผนการให้
เริ่มแรกจองโรงแรมนอนมันตรงไทม์แสควร์นี่แหละ กะว่าตื่นมาก็อยู่ตรงนั้นเลยไม่ต้องไปไหนมาไหนกันแระ
ไอเดียบรรเจิดมาก แต่หลังจากโทรไปได้สามโรงแรม ปรากฏว่าเต็ม เต็ม เต็ม หมด!!! เอาหล่ะลองอีกที่ถ้าเต็ม
ก็ไม่ต้องปงต้องไปกันแระ งิงิ ปรากฏว่ายังพอมีห้องว่างอยู่แต่ถ้าจะจองบังคับให้พัก
3 คืนเป็นอย่างน้อย ตายหล่ะ!!! 3 คืน คืนละ 800$ (งานนี้เห็นทีคงถึงกับต้องล้มละลายขายตัวกันเลยทีเดียว!!!!)
เราคงต้องจบแผนการลงแต่เพียงเท่านี้ (พร้อมกับทำหน้าสลด)
แต่ในที่สุดผู้มีอุปการะคุณเลยใช้แต้มสะสมแลกห้องมาให้ 3 คืน สรุปไม่เสียซักบาท
จบเรื่องที่พัก สรุป เข้าพัก 30/12/2012 – 1/1/2013
เช้าวันที่ 31 ออกมาหน้าโรงแรมตอนสาย
ๆ ซัก 11 โมง คนยังไม่เยอะเท่าไหร่ไปหาอาหารเช้าใกล้ ๆ แถวนี้กินรองท้องดีกว่า
เดินกลับมาราว ๆ เที่ยงกว่า คนก็ยังไม่แน่นหนาเท่าไหร่
งั้นกลับไปงีบต่อบนห้องซักหน่อย
บ่ายโมงกว่า ๆ ลงมาใหม่ โอ้ว!!!!! คน รึ หนอน
ไมมันเยอะงี้ง่ะ??? และ แล้วปฏิบัติการมุด ๆ ๆ ก็เริ่มต้นขึ้น
ในสมองคิดอยู่อย่างเดียวว่า “กูลงทุนขนาดนี้แล้ว ปีนี้กูต้องไม่พลาด”
เบียดไปเบียดมา ให้ตายเถอะเท้าเริ่มไม่แตะพื้นแระ คนข้าง ๆ ก็บีบอัดเข้ามา
นี่มันคนอัดกระป๋องชัด ๆ ในสมองตอนนี้คิดอีกอย่างว่า “ตายกู ตาย ห้ามล้มเด็ดขาด
ขืนล้มนะโดนเหยียบศพไม่สวยแหง๋ ๆ ” หลังจากอึดอัดเป็นคนกระป๋องอยู่ราว ๆ 2 ชั่วโมง
ก็มีเหตุให้เราหลุดเข้ามาอยู่ในวงชั้นใน ไม่ถึงขนาด ริงไซด์
แต่ก็จัดว่าเป็นโลเคชั่นที่โอเคเลยทีเดียว มาตอนนี้เริ่มหนาวแระ 4 โมงกว่า ๆ
อากาศอยู่ที่ประมาณ 2 – 3 องศา อากาศเย็นไม่เท่าไหร่ แต่ จะเสือกมีลมพัดทำไม
มันทำให้หนาวหนักกว่าเดิมเป็น 10 เท่า แสรด.... มองไปรอบ ๆ ตำรวจควบคุมฝูงชน
กั้นคนเป็นบล็อค ๆ แระ หุ หุ เราอยู่วงใน เย้ เย้ 5 โมงเย็น
เราเริ่มควักอาหารออกมากินให้มันรู้กันไปเลยว่าเราเตรียมพร้อมแค่ไหน
จากนั้นยืนดูคนโน้น คนนี้ ถ่ายรูปบ้างอะไรบ้าง เมื่อยบ้าง หนาวบ้าง และแล้ว
ก็มีเสียงโฆษกประกาศเริ่มเคาท์ดาวน์ บลา บลา บลา มาสะดุดหูตรงที่ ชีร์ บอกว่า
เหลืออีกแค่เพียง 6 ชม. เท่านั้นก็จะปีใหม่แล้ว เย้ เย้........ อะไรนะ??? นี่กูยืนแบบเอ็กซ์ตรีม
มาตั้งแต่บ่ายโมงกว่า นี่ก็ปาเข้าไป 4 ชม. กว่าแล้ว และต้องยืนอีก 6 ชม.เหรอ?????
ว่าแล้วก็อยากทรุดตัวลงร้องไห้เด้ แบบว่ามันเมื่อย ๆ ๆ ๆ ง่ะ สุด ๆ มันคือการ “ยืน ขา ตาย” ชัด ๆ
เพราะไม่ได้ขยับขาไปไหนเลย ขยับได้มากสุดคือการซอยเท้าอยู่กะที่อย่างสงบ และในอีก
1 ชม. ถัดมา ขาเราได้ไปสู่สุขคติแล้ว เหมือนขาเราหายไป มึน ๆ ชา ๆ
กลับมาที่บนเวทีอีกครั้ง
ขณะนี้ศิลปินที่จะขึ้นโชว์ฟรีคอนเสิร์ตบนเวทีเริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว
มีใครบ้างหาดูรายละเอียดได้ทางเว็บไซด์จัดงาน แต่หลัก ๆ
ที่เอามาเป็นจุดขายของงานในปีนี้คือ Taylor Swift, Neon Trees & Psy พ่อหนุ่มกังนัมสไตล์ของเรานี่เอง
ซึ่งคืนนี้เป็นคืนวันเกิดของเค้าด้วย วู้ฮู้
มาตอนนี้ก็เริ่มมีการทดสอบเครื่องเสียงกันบ้าง คนรอก็รอไปเถอะ ชีวิตมีกรรมจริง ๆ
เวลาเริ่มเดินไปอย่างช้า ๆ นับถอยหลังไปเรื่อย ๆ
ด้านผู้จัดงานก็เริ่มเปิดเพลง สลับกับการขึ้นซ้อมร้องเพลงก่อนการแสดงจริง ของเหล่าบรรดาศิลปินทั้งหลาย
ซ้อม ๆ หยุด ๆ อยู่หลายรอบ และแล้วก็ถึงเวลาเปิดงาน มีการกล่าวเปิดงาน แนะนำ
เหล่าบรรดาสปอนเซอร์ บลา บลา บลา เหมือนมวยไทยช่วงแจกทองก่อนชก อากาศก็หนาว ๆ เย็น
ๆ อารมณ์เหมือนกำลังจะถูกแช่แข็งหมู่ แบบ ทั้งเป็น (สาบานว่าไม่มีใครบังคับให้มา
สมัครใจมากันเองทั้งนั้น) หลังแนะนำสปอนเซอร์ผู้จัดงานทั้งหลายแหล่
รวมทั้งการเต้นหมีแพนด้าจบลง คอนเสิร์ตก็เริ่มต้นขึ้น ติดตามชมภาพถ่าย และ
บรรยากาศในงานทาง http://www.timessquarenyc.org/events/new-years-eve/webcast/index.aspx ได้เลยตามนั้น
ย้อนกลับมาที่ลานแช่แข็งหมู่กลางแจ้งอีกครั้ง
ขอบอกอย่างตรงไปตรงมาเลยว่า จัดงานได้ กาก จริง ๆ นักร้องที่เชิญมาร้องเพลง
ร้องกันแค่คนละเพลง สองเพลง แค่นั้นเอง ไม่สมกับที่ยืนหนาวเหน็บรอคอย ไอ้ลำพังมาโชว์ตัวแว่บ
ๆ ไม่เท่าไหร่ แต่พี่แกเล่นมา เหลืออีก 4 ชม.จะปีใหม่แล้วนะคะ
แล้วนักร้องก็ขึ้นมาร้องเพลง 2 เพลง หลังจากนั้น บนเวทีเงียบหายไม่มีการแสดงใด ๆ
อีก ไม่มีแม้กระทั่งคนบนนั้น จะมีก็แค่คนขึ้นไปกวาดเวที และ เปิดเพลงให้ฟังเป็นระยะ
ๆ ผ่านไปจนครบชั่วโมง ก็มาประกาศอีกรอบว่า “เหลืออีกแค่ 3 ชม. เท่านั้น
ก็จะปีใหม่แล้วคร๊า” แล้วก็มีนักร้องมาร้องเพลงอีก 1 เพลง จบ!!! เป็นวัฏจักร วนไปจนกว่าจะเริ่มวันปีใหม่
คือ...ในใจนี่อยากทราบชื่อออแกไนเซอร์มาก??? โดยเฉพาะปีนี้
คนมายืนแช่แข็งหมู่กว่า 2 ล้านคน ไม่น่าเชื่อว่าทำได้แค่นี้จริง ๆ
รวมถึงจอภาพทั้งหลายในไทม์สแควร์
ทำไมไม่ร่วมใจฉายภาพบนเวทีตอนที่มีคนร้องเพลงหรือทำกิจกรรมบนนั้น ส่วนไอ้จอ โตชิบา
ที่เป็นสปอนเชอร์หน่ะ ก็เล็กซะจนเหมือนแหงนคอดูทีวีจอ 14 นิ้ว ในโรงอาหาร
ปีหน้าถ้าใครจะไปร่วมงานก็จะแนะนำให้พกกล้องส่องทางไกลไปด้วยอีกอันน่าจะได้ใช้ประโยชน์
เอาหล่ะ และแล้วเวลาก็ล่วงเลยมาจน 11.59 น. เราก็เริ่มนับเลยค่ะ 9 8 7
6....ถอยหลังไปเรื่อย ๆ และอีก 1
กิจกรรมต้องทำเพื่อฉลอง ต้อนรับวันปัใหม่ในงานนี้ก็คือ “จูบ” ค่ะ คู่รักทุก ๆ
คู่ก็พร้อมใจกันจูบแบบดูดดื่มเลยทีเดียว ส่วนใครมาเดี่ยว ๆ รึ โสดมากะเพื่อน
ก็ต้องยืนตาร้อนกันไปเป็นแถบ ๆ (ยังจำอารมณ์นั้นได้ดี ในปี 2012) เคยลองดูตามวีดีโอภาพบรรยากาศงานแล้วเห็นว่า
ทุกคนที่อยู่ในงาน หน้าตาเบิกบานแจ่มใสแบบโคตรดีใจรับวันปีใหม่สุด ๆ
มันคงสนุกมากสินะ นี่แหละ ที่กระตุ้นให้เราอยากไป แต่
มาวันนี้เรารู้เบื้องหลังแล้ว ที่หน้าตามันดีใจสุด ๆ
ก็เพราะจะได้ไปเข้าห้องน้ำซะที รึไม่ก็จะได้กลับไปนอนห่มผ้าอุ่น ๆ แล้ว(มันจบแล้ว T_T)
มาถึงตอนที่จะกลับบ้างหล่ะคราวนี้
ถึงจะอยู่วงในสุดแต่ก็จะแทรกเบียดผู้คนออกไปให้ได้เร็วที่สุด
ก่อนอื่นเริ่มขยับขาก้าวซักหนึ่งก้าวก่อน ปรากฎว่าขาแข็ง งอไม่ได้ และเจ็บขาหนีบ (ตกลงนี่กูตายมาหลายชั่วโมงแล้วรึไงนะ...ตัวถึงแข็งเชียว) แต่เราไม่ยอมแพ้
ยังพยายามลากสังขารกลับไปให้ได้ก่อนที่จะฉี่ราด (ที่แท้รีบเพราะปวดฉี่ 555)
โรงแรมอยู่ห่างจากจุดที่ยืนขาตายประมาณ 200 เมตร แต่ใช้เวลาลากสังขารสู่ห้องพักทั้งสิ้น 35 นาที โดยประมาณ (กะว่าถ้าลากสังขารไปไม่ไหว กูก็จะละสังขารมันตรงนี้แหละ) มันทรมานจริง ๆ
นะพี่น้องเอ้ย!!!!
สรุป ก่อนล้มตัวลงนอนในวันปีใหม่
สั่งอาหารมากินบนห้องดีกว่า หิวมาก และ ฝ่าฝูงชนออกไปอีกรอบคงไม่ไหว
กินไปก็ลงความคิดเห็นกันไปว่า ดีใจที่ทำได้สำเร็จ
ในภาระกิจฉลองปีใหม่ที่ไทม์แสควร์ แต่ถามว่าให้ทำอีกครั้งเอาป่าว ตอบได้เลยคำเดียวว่า
”ไม่” เล่าให้ใครฟังมีแต่คนพูดว่า Are you crazy???
แต่ไม่เจ็บใจเท่าเพื่อนมันบอกว่า “มึงจะไปทำไมวะ กูนั่งจิบเบียร์อยู่บ้าน
ดูถ่ายทอดสดทางทีวี เห็นชัดกว่าเป็นไหน ๆ ที่สำคัญ ไม่หนาว
ไม่ต้องไปเบียดคนด้วยเว้ย 555”
เพื่อนก็พูดถูกอ่ะนะ แต่ยังไง ๆ ไปสัมผัสเองนี่ได้บรรยากาศกว่าเยอะ ( NYCถึงแล้วจ้า )