Friday, April 17, 2015

พาคุณนายแม่ไปชมเพชร : Part 2

ตอนที่แล้วเขียนซะยืดยาว รูปนี๊ดเดียว เดี๋ยววันนี้จะลงรูปเพิ่มให้สะใจ จะขออธิบาย+ลงรูปโดยไม่เรียงลำดับนะคะ หยิบรูปไหนได้ก่อนเขียนก่อน ha ~ ha


Hazen Diamond Necklace

ขอเริ่มที่สร้อยเพชรเส้นนี้ก่อนเป็นลำดับแรกนะคะ แสงประกายเพชรส่องทะลุตู้โชว์ล่อตาเป็นอย่างมาก สร้อยคอเพชรนี้มีชื่อว่า Hazen Diamond Necklace ออกแบบโดย Harry Winston Inc. (บริษัทจิวเวลรี่ชื่อดัง) 


ตัวสร้อยทำจาก platinum ประกอบด้วยเพชรอีก 325 เม็ด น้ำหนักโดยรวม ประมาณ 131.43 กะรัต สร้อยแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยแถวด้านบนตกแต่งด้วย เพชรเจียระไนแบบ emerald ส่วนแถวด้านล่างอีก 3 แถว ประกอบด้วย แถวที่ตกแต่งด้วยเพชรเจียระไนแบบ baquette, แถวที่เป็นเพชรเจียระไนแบบ round brilliant และมีตะเข็บห้อยเพชรเจียระไนแบบ paer - shaped ห้อยอยู่เป็นแถวสุดท้าย


สร้อยเพชรนี้สามารถสวมใส่ได้ทั้งแบบจัดเต็ม 4 แถว (เหมือนในรูป) หรือ ปลดส่วนด้านล่างออก ให้เหลือเฉพาะช่วงเส้นบนเส้นเดียวแบบคลาสสิคก็ได้ จุดเด่นของสร้อยเส้นนี้ คือการนำเอาเพชรเจียระไน รูปแบบต่าง ๆ มาผสมผสานไว้ในสร้อยเส้นเดียวกันได้อย่างสวยงาม รวมถึงเพชรที่ใช้ก็เป็นเพชรน้ำงามชั้นดี 

เจ้าของสร้อยคอเพชรเส้นนี้คือ Mrs. Lita Annenberg Hazen ซึ่งภายหลังได้บริจาคสร้อยคอเพชรเส้นนี้ให้แก่ สถาบันสมิธโซเนียน ในปี 1979




ชุดถัดมาในภาพ จะเป็น Sapphire นะคะ เดี๋ยวค่อย ๆ อธิบายทีละชิ้น


Logan Sapphire




<< ชิ้นซ้ายมือนี้มีชื่อว่า Logan Sapphire มีน้ำหนักถึง 423 กะรัต ได้มาจากเหมืองคริสตัลในประเทศ ศรีลังกา และเป็นหนึ่งใน blue sapphire ที่เจียระไนแล้ว ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังเป็นอัญมณีที่มีน้ำหนักมากที่สุดใน National Gem Collection ของพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

Logan Sapphire ถูกตกแต่งด้วยเงิน, ทอง และ เพชรเจียระไนแบบ round brilliant 20 เม็ด (น้ำหนักโดยรวมประมาณ 16 กะรัต) ทำเป็นเครื่องประดับ เข็มกลัด

โดย Mrs. John A. (Polly) Logan (เจ้าของ)ใช้เป็นเข็มกลัดที่บ่า ก่อนจะบริจาคให้แก่สถาบันสมิธโซเนียน ในปี 1960




Hall Sapphire Necklace และ Bismarck Sapphire Necklace

^ จากภาพด้านบน สร้อยคอทางด้านซ้ายมือ มีชื่อว่า "Hall Sapphire Necklace" ออกแบบโดย Harry Winston Inc. (เจ้าเก่า เจ้าประจำ อีกแล้ว) ตัว Sapphire เจียระไนแบบ cushion จำนวน 36 เม็ด น้ำหนักรวม 195 กะรัต นำประกอบเข้าเป็นสร้อยคอด้วย platinum ล้อมด้วยเพชรเจียระไนแบบ pear - shaped และ round - brilliant จำนวน 435 เม็ด (น้ำหนักรวมเฉพาะเพชร ประมาณ 83.75 กะรัต) 

ตัว Sapphire ได้มาจากการกัดกร่อนของหินภูเขา central mountains ในศรีลังกา โดยคัดแยกออกจากก้อนกรวดด้วยมือ เจ้าของสร้อยคอเส้นนี้ คือ Mrs. Evelyn Annenberg Hall ก่อนที่จะบริจาคให้แก่สถาบันสมิธโซเนียนในปี 1979


^ จากภาพด้านบน สร้อยคอทางด้านขวามือ มีชื่อว่า "Bismarck Sapphire Necklace" ออกแบบโดย Cartier, Inc. ตัว Sapphire มีน้ำหนัก 98.57 กะรัต เจียระไนด้านบนเป็น 8 เหลี่ยม ประกอบเป็นสร้อยคอเข้ากับ platinum พร้อมทั้ง เพชรเจียระไนแบบ baguette และ round - brilliant จำนวน 312 เม็ด เจ้าของสร้อยคอเส้นนี้ คือ Countess Mona von Bismarck บริจาคสร้อยให้แก่ สถาบันสมิธโซเนียนในปี 1967



Chalk Emerald

มาดูมรกตกันบ้างดีกว่า ^ภาพบน คือ "Chalk Emerald" ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ได้รับบริจาคมาจาก Mr. and Mrs. O'Roy Chalk ในปี 1972  มรกตมีน้ำหนัก 37.8 กะรัต (เดิมก่อนเจียระไน 38.4 กะรัต) นำมาทำเป็นเครื่องประดับแหวน โดยประกอบตกแต่งเข้ากับ platinum, ทอง และ เพชรเจียระไนแบบ pear - shaped จำนวน 60 เม็ด (15 กะรัต) ออกแบบโดย Harry Winston Inc.

Photo from http://geogallery.si.edu/index.php/en/1002007/chalk-emerald

มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า Chalk Emerald นั้น ดั้งเดิมตัวมรกต เคยประดับอยู่บนสร้อยคอเพชร ของมหารานีแห่งเมือง Baroda ประเทศอินเดีย มาก่อน 




>> แถมรูปจากพิพิธภัณฑ์ให้อีกหนึ่งรูป เนื่องจากรูปที่ตัวเองถ่ายมันเห็นไม่ชัด






บรรยากาศในห้องจัดแสดงเป็นไปอย่างคึกคัก ในตู้นี้จะมีป้ายบอกวิธีสังเกตหินอัญมณีชนิดต่าง ๆ

และที่เห็นในตู้โชว์คือ Topaz (บุษราคัม) นะคะ





<< ปิดท้ายตอนนี้ด้วย สร้อยมรกตล้อมเพชร ก่อนยกยอดที่เหลือไว้ไปเขียนต่อในตอนหน้านะคะ สร้อยมรกตล้อมเพชรนี้มีชื่อว่า "Mackay Emerald Necklace" เป็นมรกตที่เจียระไนแล้ว ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน collection ของพิพิธภัณฑ์ (น้ำหนัก 167.97 กะรัต) โดยตกแต่งเข้ากับ platinum, มรกต 35 เม็ด และ เพชรเจียระไนแบบ round brilliant & step cut ล้อมกรอบ และ สายสร้อย จำนวนมากถึง 2,191 เม็ด ออกแบบโดย Cartier, Inc. 

Clarence Mackay มอบสร้อยเส้นนี้ให้เป็นของขวัญแต่งงานแก่ภรรยาของเขา Anna Case ในปี 1931 และ Mrs. Anna Case Mackay ได้มอบสร้อยให้เป็นสมบัติของสถาบันสมิธโซเนียน ในปี 1984


**เขียนเรื่องเพชรเหนื่อยมาก....story ยาวยืด แต่จะพยายามเขียนต่อให้จบในตอนหน้าค่ะ**

>>เบื่อ jewelry แล้วจ้า อยากเขียนเรื่องอื่นบ้าง<<