Thursday, April 23, 2015

พาคุณนายแม่ไปชมเพชร : Part 3 (ภาคจบ)

เพชรตอนสุดท้ายแล้วค่ะ (แอบดีใจจะได้เขียนเรื่องอื่น ๆ บ้าง) อันที่จริง ถ้าจะมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในดีซีนั้นมาวัน จันทร์ - ศุกร์ ช่วงใกล้ ๆ spring break จะดีมาก ๆ เพราะคนจะน้อยหน่อย แต่ถ้ามาช่วงโรงเรียนเปิดเรียนจะเจอกองทัพ school trip นักเรียนก็มีตั้งแต่เด็กจนแก่เลย ถ้าเป็น เสาร์ - อาทิตย์นี่ยิ่งแล้วใหญ่ ผู้คนหอบลูกจูงหลานแถวยาวเลื้อยเลยประตูไปหลายร้อยเมตรเลย พอคนเยอะก็จะหามุมสวย ๆ ถ่ายรูปยาก เพราะฉะนั้นใครวางอยากจะมาเที่ยวก็วางแผนกันดี ๆ นะคะ จะได้ไม่ต้องยืนต่อคิวจนเซ็ง



มาคุยเรื่องเพชรกันต่อดีกว่า (เดี๋ยวไม่จบ) เมื่อตอนที่แล้วทิ้งท้ายไว้ที่สร้อยมรกตล้อมเพชร (ในรูปทางขวามือ) "Mackay Emerald Necklace" 

วันนี้มาดูชิ้นถัดมา (ในรูปทางซ้ายมือ) เป็นสร้อยคอแบบ Art Deco Indian-style ทำขึ้นในปี 1928-1929 ออกแบบโดย Cartier, Inc. สร้อยมีชื่อว่า "Post Emerald Necklace" มรกตที่ใช้ทำสร้อยนำมาจาก โคลัมเบีย และตัดเจียระไนทรงหยดน้ำแบบโบราณ baroque - cut ประดับเข้าเป็นสร้อยกับ platinum, เพชรเม็ดเล็ก ๆ และ มรกตเจียระไนแบบลูกปัด สร้อยมรกตนี้เป็นของ Marjorie Merriweather Post, นักสะสมงานศิลปะ และ jewelry (เศรษฐีนีระดับพันล้านของอเมริกาสมัยนั้น) และได้บริจาคสร้อยนี้ให้แก่สถาบันสมิธโซเนียนในปี 1964



^ข้างบนในรูปนี้เป็น Aquamarine ค่ะ




ส่วนในภาพนี้ (อาจจะเห็นไม่ชัด) บ้านเราเรียกว่า "เพชรตาแมว"




ตู้นี้ก็จะโชว์ "ไข่มุก"



<< ฝั่งซ้ายมือ เป็นสร้อยคอเพชรสีเหลือง (ไม่ใช่บุษราคัมนะคะ) คือเป็นเพชรแต่ไม่ใส จะออกสีอมเหลืองหน่อย สร้อยคอนี้ชื่อว่า "Hooker Yellow Diamonds"


<< ส่วนในฝั่งขวามือ คือ "Hooker Emerald Brooch" ซึ่งเดิมเคยถูกใช้เป็นหัวเข็มขัดมรกตล้อมเพชร ของ สุลต่าน Abdul Hamid II แห่ง อาณาจักรออตโต้มาน ภายหลัง Tiffani & Co. ซื้อประมูลมาได้ในปี 1911 และได้นำประดับเข้ากับมงกุฎ เพื่อจัดแสดงโชว์ในงาน "House of Jewels" ที่นิวยอร์ก ในปี 1940


ต่อมาในปี 1950 มรกตถูกนำมาทำเป็นเข็มกลัด โดยเจียระไนให้เป็นแบบสี่เหลี่ยม beveled square - cut เข้ากับ platinum ล้อม ประดับด้วยเพชรเจียระไนแบบ round brilliant และ baquette (น้ำหนักรวมประมาณ 13 กะรัต)  Mrs. Janet Annenberg Hooker ซื้อเข็มกลัดมรกตล้อมเพชรนี้จาก Tiffani & Co. ในปี 1955 และบริจาคให้กับสถาบันสมิธโซเนียนในปี 1977



ตู้นี้จะเป็น Ruby (ทับทิม) มีทั้งแหวน และ สร้อยข้อมือ


แสงเพชรวูบวาบ บาดตามาก^^





เข็มกลัดในรูปทางซ้ายมือ ประกอบด้วยเพชร 71 เม็ดเล็ก ๆ หลายเฉดสี ซึ่งมีตั้งแต่ไม่มีสี, สีส้ม, สีเหลือง ไปจนถึงสีน้ำตาล กันเลยทีเดียว เข็มกลัดนี้มีชื่อว่า "Wilkinson Diamond Brooch" ซึ่งตั้งตามนาม Mr. & Mrs. Leonard Wilkinson ผู้บริจาคเข็มกลัดให้แก่พิพิธภัณฑ์ในปี 1977 





โชคร้ายที่เพชรเม็ดโต ๆ ในภาพฝั่งขวามือ ดัน ลืม!!จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร?? (ใครได้มีโอกาสไปเที่ยวคงต้องฝากดูมาด้วยนะคะ)




Thompson Diamonds สวยงาม...เลอค่ามากค่ะ




สร้อยคอเพชรสีเหลือง Victoria - Transvaal Diamond Necklace 

(เอาจริง ๆ นะ คือ สวยมาก ดูดีมีเสน่ห์กว่าเพชรใส ๆ อีก)





โปรดสังเกตดูประกายเพชร ฟรุ๊งฟริ๊งมาก ๆ







<< "Inquisition Necklace" สร้อยคอเส้นนี้ ว่ากันว่า รูปแบบการเจียระไนเพชรเป็นแบบเก่าแก่ในช่วงประมาณศตวรรษที่ 17 กันเลยทีเดียว 

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 Maharaja แห่งแคว้น Indore ในอินเดีย ได้ซื้อสร้อยเส้นนี้ไว้ ภายหลังในปี 1948 Harry Winston ได้ซื้อสร้อยเส้นนี้ต่อจากลูกชายของ Maharaja  


สร้อยได้ถูกรวมเข้าไว้ใน Winston's Court of Jewels ซึ่งได้นำออกจัดแสดงโชว์ในนิทรรศการต่าง ๆ 


จนกระทั่งในปี 1955 Cora Habbard Williams ซื้อสร้อยต่อจาก Winston และยกให้เป็นสมบัติของสถาบันสมิธโซเนียน ในปี 1972 



ชมเพชรไปเรื่อย ๆ ก่อนนะคะ เยอะมากยังไม่หมด




เพชรเม็ดนี้ คือ ดีงามจริง ๆ ประกายเจิดจรัสมาก 





และ part สุดท้ายนี้ ขอลาไปด้วย เซต "Gift from Napoleon


<< มงกุฎที่เห็นในภาพนี้มีชื่อว่า "Marie - Louise Diadem"  พระเจ้านโปเลียนได้มอบให้พระนาง Marie - Louise เนื่องในพิธีอภิเษกสมรสของทั้ง 2 พระองค์ แต่เดิมเป็นมงกุฎเพชรที่ประดับเข้ากับมรกต,เงิน และ ทอง นอกจากนี้ยังมีสร้อยคอ, ต่างหู (ทั้ง 2 ชิ้น ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Louvre) และ หวี (หักแล้ว) ซึ่งทำเป็นเซตเครื่องประดับเข้ากันกับมงกุฎนี้ด้วย


จากนั้นพระนาง Marie - Louise ได้ยกมงกุฎนี้และเครื่องเพชรอีกจำนวนหนึ่งให้กับ Archduchess Elise และเป็นสมบัติตกทอดไปสู่รุ่นลูกหลาน จนกระทั่งได้ถูกขายให้กับ Van Cleef & Arpels (บริษัทค้าจิวเวอรี่ในปารีส) และถูกเปลี่ยนเอามรกตออกจากมงกุฎโดยใช้ turquoise ประดับเข้าไปแทนที่ และต่อมาได้จัดแสดงโชว์ในนิทรรศการพิเศษ "Empress Marie-Louise" พร้อมทั้งสร้อยคอ, ต่างหู และ หวี เข้าชุดกันที่ พิพิธภัณฑ์ Louvre 


ในภายหลัง Marjorie Merriweather Post ซื้อมงกุฎต่อจาก Van Cleef & Arpels และได้บริจาคมงกุฎนี้ให้กับสถาบันสมิธโซเนียน ในปี 1971




<< ซ้ายมือ คือ Napoleon Diamond Necklace  สร้อยคอเพชรนี้พระเจ้านโปเลียน ได้มอบให้เป็นของขวัญแก่พระนาง Marie - Louise (พระชายาองค์ที่ 2) เพื่อเฉลิมฉลองในวันประสูติพระโอรสของพระองค์ น้ำหนักสร้อยเส้นนี้ประมาณ 263 กะรัต


หลังการสละราชสมบัติของพระเจ้านโปเลียน พระนาง Marie - Louise เสด็จกลับไปยัง กรุงเวียนนา, ออสเตรีย โดยนำทรัพย์สมบัติรวมทั้งสร้อยเส้นนี้กลับไปด้วย เมื่อพระนางสิ้นพระชนม์ สร้อยได้ตกไปเป็นของ Archduchess Sophie แห่งออสเตรีย (น้องสะใภ้) ซึ่งเป็นผู้ที่แกะเอาเพชร 2 เม็ดออกจากสร้อยไปทำเป็นต่างหู หลังจากนั้นสร้อยก็เป็นสมบัติตกทอดมาสู่รุ่นลูก รุ่นหลาน จนกระทั่งขายให้กับนักสะสมชาวฝรั่งเศส และ ถูกขายต่อให้กับ Harry Winston Inc. ในปี 1960 


ต่อมา Marjorie Merriweather Post ซื้อสร้อยเพชรเส้นนี้จาก Harry Winston Inc. และบริจาคให้กับสถาบันสมิธโซเนียน ในปี 1962 และได้ถูกนำจัดแสดงไว้คู่กันกับ Marie - Louise Diadem


^^ในที่สุดก็เขียนเรื่องเพชรนี่จบซะที ลากยาวมา 3 ตอน details เยอะมาก ปวดหัวขอตัวไปนอนห่มผ้าก่อน เดี๋ยวคราวหน้าจะพาไปดูอย่างอื่นกันบ้าง^^